บริการ รับดูแลสวนรายเดือน กับ Outsource ต้องเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ธุรกิจ

ความแตกต่างระหว่าง บริการ รับดูแลสวนรายเดือน และ บริษัท Outsource  

การเลือกบริการดูแลสวนรายเดือนหรือบริษัท Outsource ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ โครงการ งบประมาณ และความต้องการของผู้ว่าจ้าง หากต้องการงานดูแลสวนที่สม่ำเสมอและมีการควบคุมการทำงานอย่างใกล้ชิด บริการดูแลสวนรายเดือนอาจเหมาะสมกว่า แต่ถ้าหากธุรกิจมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีพรรณไม้หลากหลายชนิดที่ต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน รวมถึงต้องการบริการที่ครอบคลุม ทั้งความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และการรับประกันการทำงาน การว่างจ้าง บริษัท Outsource ด้านงานดูแลสวน จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการดูแลพื้นที่สีเขียวในระยะยาวมากกว่า. 

บริการดูแลสวนมีหน้าที่หลักๆดังนี้ 

• การดูแลต้นไม้และพืชพรรณ  เช่น การตัดแต่ง ตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย รดน้ำ และดูแลสุขภาพของต้นไม้และพืชในสวน 
• การจัดสวน เช่น การออกแบบและจัดวางต้นไม้ ดอกไม้ และองค์ประกอบอื่น ๆ เพื่อให้สวนมีความสวยงามและใช้ประโยชน์ได้สูงสุด 
• การกำจัดวัชพืช ถือเป็นการควบคุมและกำจัดวัชพืชที่อาจรบกวนการเจริญเติบโตของพืชที่ปลูก 
• การจัดการระบบน้ำ ด้วยการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบการให้น้ำ เช่น ระบบน้ำหยด หรือสปริงเกอร์ 
• การทำความสะอาดสวน ผ่านการเก็บขยะและเศษซากพืชที่หล่นลงมาหรือร่วงโรย 
• การป้องกันและควบคุมโรคพืช ด้วยการตรวจสอบและป้องกันโรคและแมลงที่อาจทำให้พืชเสียหาย 

ข้อดีและข้อเสียของบริการ รับดูแลสวนรายเดือน 

บริการดูแลสวนรายเดือนมักให้บริการโดยทีมงานที่มาจากบริษัทขนาดเล็กที่ให้บริการดูแลสวนในระดับท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการดูแลรักษาเป็นประจำ เช่น การตัดหญ้า, ตัดแต่งกิ่งไม้, รดน้ำ, ใส่ปุ๋ย และควบคุมศัตรูพืช ตามความถี่ที่กำหนดไว้ เช่น ทุกสัปดาห์หรือเดือนละครั้ง  

ข้อดี: 

• ความคุ้นเคยกับพื้นที่: ทีมงานที่ให้บริการดูแลสวนรายเดือนมักคุ้นเคยกับสวนและพรรณไม้ในท้องถิ่นที่ดูแล และ รู้ว่าต้นไม้หรือพืชพรรณชนิดใดต้องการการดูแลพิเศษ 

• การควบคุมงานง่าย: ผู้ว่าจ้างสามารถควบคุมรายละเอียดการทำงานได้ใกล้ชิดและสามารถปรับเปลี่ยนแผนงานที่หน้างานได้ตามต้องการ 

• ความสม่ำเสมอในการดูแล: การมีบริการดูแลรายเดือน จะมีการเข้าทำงานเป็นระยะๆตามที่กำหนด ช่วยให้สวนได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอและคงความสวยงามตลอดเวลา 

• การตอบสนองที่รวดเร็ว: บริษัทขนาดเล็ก จะมีทีมงานย่อยๆ ที่พร้อมตอบสนองความต้องการอย่างรวดเร็ว ในกรณีฉุกเฉินหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น การแก้ไขปัญหาศัตรูพืชหรือการซ่อมแซมสวนที่เสียหายจากพายุ ทำให้มั่นใจได้ว่าปัญหาจะถูกแก้ไขได้อย่างทันท่วงที 

• ความง่ายในการจัดการ : เนื่องจากบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทขนาดเล็กมักจะไม่มีโครงสร้างที่ซับซ้อน ลูกค้าสามารถจัดการและประสานงานได้ง่ายกว่า ไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ยุ่งยาก ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างคล่องตัวและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น  

ข้อสังเกตุ: 

• ความเชี่ยวชาญและความรู้ที่จำกัด : บริการดูแลสวนขนาดเล็กอาจขาดความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการดูแลพื้นที่สวนที่มีความซับซ้อน เช่น การจัดการต้นไม้ใหญ่ควบคู่ไปกับสวนหย่อมในพื้นที่ต่างๆ การควบคุมศัตรูพืชขั้นสูง หรือการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดูแลสวน หากต้องเผชิญกับปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างถูกต้องปลอดภัยหรือต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ บริษัทเหล่านี้อาจไม่สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เช่นเกิดเหตุไม้ใหญ่ล้มฟาดอาคาร กิ่งหักโค่น การดูแลสวนไม้ดอกริมบ่อปลาเป็นต้น 

• ขาดการเข้าถึงทรัพยากรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย : บริการดูแลสวนรายเดือนทั่วไปอาจขาดงบประมาณในการลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น รถกระเช้าสำหรับตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่. ระบบชลประทานอัตโนมัติ, เครื่องตัดแต่งกิ่งที่มีความแม่นยำสูง, หรือเทคโนโลยีที่ใช้ในการวิเคราะห์สุขภาพของต้นไม้ ทำให้การให้บริการอาจไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรม โรงแรียน โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้า ที่มีการจัดวางสวนในหลากหลายรูปแบบ ที่เน้นทั้งความสวยงามและปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก 

• คุณภาพการบริการไม่สม่ำเสมอ : ด้วยจำนวนพนักงานที่จำกัดและข้อจำกัดในการจัดการทรัพยากร การบริการของบริษัทขนาดเล็กอาจมีความไม่สม่ำเสมอ รวมถึงขาดการควบคุมคุณภาพในการทำงาน เช่น การมาทำงานตามนัดหมายไม่ตรงเวลา หรือการขาดความละเอียดในการดูแลสวน ซึ่งอาจส่งผลให้สวนไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและอาจเกิดความเสียหายทั้งกับต้นไม้และทรัพย์สินโดยรอบได้ 

ข้อดีและข้อเสียของการจ้าง บริษัท Outsource ดูแลสวน 

   บริการ Outsource เป็นทางเลือกที่หลายองค์กรหรือธุรกิจขนาดใหญ่เลือกใช้ เนื่องจากี่ช่วยให้การดูแลสวนขององค์กรมีประสิทธิภาพ สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น ด้วยบริการที่ครบวงจร ช่วยลดภาระงานให้กับผู้ว่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือหน่วยงานภาครัฐ การใช้บริการ Outsource สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพการดูแลพื้นที่สีเขียว และสร้างความมั่นใจได้ว่าสวนจะได้รับการดูแลอย่างดีและตรงตามมาตรฐานที่ต้องการ และยังสอดคล้องกับนโยบายที่มุ่งเน้นส่งเสริมความยั่งยืน ในหลายๆองค์กรอีกด้วย 

ต่อไปนี้คือข้อดีของการเลือกจ้างบริการดูแลสวนผ่านบริษัท Outsource: 

• ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ :  บริษัท Outsource ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลสวน จะมีทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น รุกขกร นักพฤกษศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภูมิทัศน์ ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจลึกซึ้งในการบริหารพื้นที่สีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการดูแลต้นไม้ใหญ่ การควบคุมศัตรูพืช และการฟื้นฟูสวนที่ได้รับความเสียหายให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง 

• บริการครบวงจร :  มีบริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ จัดสวน การติดตั้งอุปกรณ์และระบบระบายน้ำในสวน การดูแลรักษาตามฤดูกาล การจัดการศัตรูพืช การบำรุงรักษาต้นไม้ใหญ่ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสวน ทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการหรือซ่อมบำรุงสวนเอง 

• ประหยัดเวลาและลดภาระงาน : การจ้างบริษัท Outsource ช่วยลดภาระการดูแลสวน โดยจะเข้ามาจัดการทุกขั้นตอนอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การดูแลรายวัน รายสัปดาห์ หรือ ดูแลสวนรายเดือน ทำให้ผู้ว่าจ้างมีเวลามากขึ้นในการจัดการงานหลักหรือธุรกิจหลักขององค์กร 

• การประกันคุณภาพงานและการรับประกันความเสียหาย : บริษัทรับดูแลสวน ส่วนใหญ่จะมีการประกันคุณภาพของงานและนโยบายการรับประกันความเสียหาย หากเกิดความเสียหายจากการดูแลสวน เช่น ต้นไม้เสียหาย หรืองานไม่ได้ตามที่ตกลง ผู้ว่าจ้างสามารถเรียกร้องการแก้ไขหรือชดเชยความเสียหายได้ 

• การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดูแลสวน : บริษัท Outsource มักมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการดูแลสวน เช่น การใช้โดรนตรวจสอบสุขภาพต้นไม้ ระบบรดน้ำอัตโนมัติ หรือเซ็นเซอร์วัดความชื้นของดิน การตรวจโรคผ่านห้อง Lab ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสวนให้มีความแม่นยำและลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น 

• การออกแบบสวนและภูมิทัศน์ที่ตรงตามความต้องการ : บริษัทรับดูแลสวนมักมีบริการออกแบบภูมิทัศน์ที่ปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการเฉพาะของผู้ว่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อน เลือกพรรณไม้ที่สื่อความหมายที่ดีต่อองค์กร หรือพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่าง  

• การจัดการตามแผนที่ชัดเจนและเป็นระบบ : บริษัทรับดูแลสวนมักมีแผนงานที่ชัดเจนและเป็นระบบ ตั้งแต่แผนการทำงาน แผนการจัดการกำลังคน  ซึ่งรวมถึงการจัดตารางการดูแลสวน การแก้ไขปัญหา การตรวจสอบคุณภาพงาน และการประเมินผล ซึ่งช่วยให้การดูแลสวนเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือก บริการดูแลสวน 

เมื่อต้องเลือก บริการดูแลสวนสำหรับองค์กร นอกจาก ขนาดของพื้นที่สวน งบประมาณ ความต้องการพิเศษ เช่น การดูแลต้นไม้ใหญ่หรือสวนเฉพาะด้าน และ ข้อกำหนดทางกฎหมายแล้วยังมีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรจะได้รับการบริการที่เหมาะสม ตรงตามความต้องการ และช่วยรักษาพื้นที่สีเขียวให้สวยงามและยั่งยืน นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา: 

• ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของบริษัท: ควรเลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดูแลสวนสำหรับพื้นที่ที่เหมาะกับองค์กรหรือธุรกิจ เพราะการดูแลสวนในระดับองค์กรอาจต้องใช้คนจำนวนมาก และต้องการผู้ที่มีความรู้เฉพาะทาง เช่น การดูแลต้นไม้ใหญ่ การควบคุมศัตรูพืช หรือการออกแบบภูมิทัศน์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร พร้อมการตรวจสอบการทำงานที่เป็นระบบ รวมถึงมีผลงานของบริษัทที่เคยให้บริการในลักษณะเดียวกันกับองค์กรเพื่อประเมินคุณภาพงาน  

• ผลงานและคุณภาพงาน: ประเมินต้นทุนการให้บริการและเปรียบเทียบกับคุณภาพและขอบเขตของงานที่ได้รับ บางครั้งการเลือกบริการราคาถูกอาจไม่คุ้มค่าในระยะยาว หากการดูแลสวนไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง อาจเกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในภายหลัง 

การตัดสินใจเลือกบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ 

1. ธุรกิจบริการ (โรงแรม, รีสอร์ท, ห้างสรรพสินค้า, สวนสัตว์)

เป้าหมายหลัก: สร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจสำหรับลูกค้าและผู้มาเยือน 

สิ่งที่ควรพิจารณา: 

ภูมิทัศน์ที่สวยงาม: ต้องเลือกบริการดูแลสวนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในการออกแบบและมีความเข้าใจในพรรณไม้ชนิดต่างๆ รวมถึงความหมายของต้นไม้ที่ใช้ภายในสวน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้พบเห็นนอกจากนี้ การเลือกพรรณไม้ที่เหมาะสมกับสถานที่และสภาพอากาศ ยังมีส่วนช่วยให้สามารถดูแลต้นไม้ได้อย่างถูกต้อง และ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นในระยะยาว  

การบำรุงรักษาที่สม่ำเสมอ: เนื่องจากสถานที่เหล่านี้มีผู้เข้าชมจำนวนมาก การบำรุงรักษาที่ต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเพื่อให้สถานที่ดูสวยงาม เป็นระเบียบ และพร้อมต้อนรับผู้ที่มาใช้บริการอยู่เสมอ 

บริการแบบครบวงจร: ควรเลือกบริการที่ให้ทั้งการดูแลต้นไม้ การตัดแต่ง และการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและให้ธุรกิจได้โฟกัสกับงานหลักได้อย่างเต็มที่   

2. ธุรกิจการศึกษา (โรงเรียน, มหาวิทยาลัย)

เป้าหมายหลัก: สร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดภัยสำหรับนักเรียนและบุคลากร 

สิ่งที่ควรพิจารณา: 

การดูแลต้นไม้และสนามหญ้า: พื้นที่สีเขียว ภายในสถาณศึกษา เป็นพื้นที่ที่เน้นการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนและทำกิจกรรม การมี สวน และ สนามหญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายน้ำ การตัดแต่ง เพื่อป้องกันอันตราย รวมถึงการป้องกันแมลงศัตรูพืช จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ในการเลือกผู้บริการดูแลสววน 

ความปลอดภัย: ควรเลือกบริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งในการดูแลสวนและตัดแต่งไม้ใหญ่ เพราะภายในบริเวณที่มีนักเรียนและบุคลากรอยู่เป็นจำนวนมากเป็นจุดเสี่ยงที อาจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย  เช่น ต้นไม้ที่มีกิ่งใกล้ชิดกับอาคาร อันตรายจากกิ่งไม้ที่ตายแล้ว หรือรากไม้ขนาดใหญ่ที่อาจทำลายสิ่งก่อสร้างใกล้เคียง  

3. ธุรกิจการผลิต (โรงงานอุตสาหกรรม)

เป้าหมายหลัก: รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบรอบโรงงาน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

สิ่งที่ควรพิจารณา: 

การบำรุงรักษาต้นไม้และสนามหญ้า: ควรหาผู้ให้บริการดูแสวนที่เน้นความรวดเร็วในการจัดการและมีวิธีแก้ไขปัญหาโรคระบาดในพืชอย่างถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านสุขอนามัยต่อพนักงานภายในโรงงาน  

ความปลอดภัย: ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีขั้นตอนการทำงานที่มีระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน รวมมถึงมีความเชี่ยวชาญในหารทำงาน ทั้งความพร้อมของเครื่องมือและบุคลากร เพื่อความปลอดภัยของพนักงานภายในโรงงาน ช่วยลดอุบัติเหตุที่และป้องกันความเสี่ยหายจากการทำงานสวนที่อาจะส่งผลต่อการผลิตได้  

บริการที่มีความยั่งยืน: มีการลดใช้สารเคมี ในการดูแลสวน เพื่อให้ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและให้สอดคล้องกับมาตรการสิ่งแวดล้อมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม 

4. หน่วยงานราชการ

เป้าหมายหลัก: สร้างภูมิทัศน์ที่เหมาะสมกับการบริการประชาชนและเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 

สิ่งที่ควรพิจารณา: 

การดูแลพื้นที่สาธารณะ: การดูแลสวนและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดตาเพื่อสร้างบรรยากาศเป็นมิตรและปลอดภัยกับประชาชน และผู้มาใช้บริการ เป็นสิ่งจำเป็นที่หน่วยงานราชการควรให้ความสำคัญ การเลือกผู้ให้บริการดูแสวนที่มีความเชี่ยวชาญสูง ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียว 

บริการที่ตอบโจทย์ในระยะยาว: ควรเลือกผู้บริการดูแลสวนที่มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาในการปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อให้การดูแลบำรุงรักษาพื้นที่สีเขียวเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และ ถูกต้อง 

กรณีศึกษาความสำเร็จจากการใช้บริการ รับดูแลสวนรายเดือนและ Outsource 

บริการ รับดูแลสวนรายเดือน 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  แห่งหนึ่ง มีโครงการหมู่บ้านจัดสรร และ คอนโดมิเนี่ยมหลากหลายพื้นที่ ต้องการบริการดูแลสวน แต่ไม่มีทีมงานเฉพาะทางภายในบริษัท และ มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละโครงการ การว่างจ้างบริการดูแลสวนรายเดือน จึงเป็นทางออกที่ดี เนื่องจาก แต่ละพื้นที่จะมีความต้องการเฉพาะด้านที่ไม่เหมือนกัน เช่น ขนาดสวน พรรณไม้ รูปแบบของสวน ซึ่งมีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ   

ผลลัพธ์: 

• สามารถลดต้นทุนการจ้างพนักงานตามพื้นที่ต่างๆ 

• ได้บริการที่รวดเร็ว และตอบโจทย์กับขนาดพื้นที่ 

• ยืดหยุ่นในการจ่ายค่าบริการ 

ผลสำเร็จ: ได้บริการดูแลสวนที่เหมาะสมกับขนาดโครงการ และ สามารถปิดงานในส่วนขของงานดูแลสวน ในโครงการเปิดใหม่ได้มากขึ้น  

บริการดูแลสวน Outsource  

ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง และ ต่อเนื่อง แต่ขาดทรัพยากรภายในในการดูแลสวนเอง ทั้งผู้เชี่ยวชาญ แรงงาน เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ การเลือก บริการดูแลสวน จาก บริษัทOutsource  

ผลลัพธ์: 

• สวนโรงแรม ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล 

• มีผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบดูแลตามรอบเวลา ทำให้ผู้จัดการโรงแรมไม่ต้องกังวลกับงานในส่วนนี้ 

• ลดต้นทุนการจ้างพนักงานภายในโรงแรมเพิ่มเติม และได้รับการดูแลแบบมืออาชีพจากผู้ให้บริการ  

ผลสำเร็จ: โรงแรมได้รับความพึงพอใจจากลูกค้า ทั้งในด้านความสวยงามของภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อม โดยมีการรีวิวเชิงบวกเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

SO บริการดูแลสวน ครบวงจร 

   ภายใต้ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจ Outsourcing ของไทยที่ยกระดับการให้บริการในทุกมิติติ สู่การเข้าไปร่วมคิด ออกแบบ วางแผน และ กำหนดกลยุทธ์องค์กร หรือ Strategic Partner ให้กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์ในการบริหารงานด้านภูมิทัศน์กว่า 40 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยจาก ทั่วโลก เข้ามาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้เรายังมี benefit อื่นๆที่พร้อมให้คุณได้มากว่าอาทิเช่น       

• มีทีมรุกขกรและที่ปรึกษาด้านพฤษาศาสตร์ระดับประเทศ   

• มีการอบรมพัฒนาทักษะและความปลอดภัยในการทำงานก่อนเริ่มงาน    

• มีทีม QC จากส่วนกลางเข้าตรวจคุณภาพทุกเดือน   

• มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสต์ LAB ในการวิเคาระห์และตรวจสอบดินและปุ่ย  

• ผ่านมาตรฐาน ด้านการบริหารจัดการ ISO9001 และ มาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001-2005 และเป็นบริษัท Outsource รายแรกที่ได้ ISO ด้านการลดกระบวนการในการทำงาน หรือ LEAN ISO18404 

สนใจบริการติดต่อ คุณนัท ที่เบอร์ 090-197-8513
หรือ @LINE : SO GREEN
กรอกแบบฟอร์ม ขอใบเสนอราคา คลิก

สรุป
การเลือกใช้บริการ รับดูแลสวนรายเดือน และการใช้ Outsource ในการดูแลสวนของธุรกิจต่างๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการพื้นที่สีเขียวให้สวยงามและคงความเป็นระเบียบ โดยบริการรายเดือนเน้นความสม่ำเสมอและการควบคุมที่ง่าย เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการดูแลสวนใกล้ชิดและตอบสนองต่อปัญหาได้รวดเร็ว ในขณะที่การจ้าง Outsource เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการบริการแบบครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น การดูแลต้นไม้ใหญ่และการใช้เทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินและสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว