บริการดูแลสวน อีกหนึ่งทางเลือกสู่ อุตสาหกรรมสีเขียว และการพัฒนาที่ยั่งยืนยืน

อุตสาหกรรมสีเขียว คืออะไร ?  

   อุตสาหกรรมสีเขียว คือแนวคิดและการดำเนินงานที่เน้นการสร้างความยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม โดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานทดแทน การจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ และการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

การพัฒนาอย่างสู่ อุตสาหกรรมสีเขียว ใน 5 ระดับ
ของกรมอุตสาหกรรม ได้แก่ 

ระดับที่ 1 ความมุ่งมั่นสีเขียว (Green Commitment)  

• องค์กรกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และแผนงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 
• มีการสื่อสารนโยบายนี้ให้พนักงานทั่วทั้งองค์กรรับทราบ 

ระดับที่ 2 ปฏิบัติการสีเขียว (Green Activity)  

• องค์กรดำเนินกิจกรรมตามนโยบายและแผนงานที่กำหนดไว้ 

• มีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม 

• บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ 

ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) 

• มีระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่เป็นระบบ 

• ดำเนินการติดตาม ประเมินผล และทบทวนเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

• ได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่ยอมรับ หรือ 

• ได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม   

ระดับที่ 4 วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) 

• ส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรมีจิตสำนึกร่วมกันในการรักษาสิ่งแวดล้อม 

• สนับสนุนความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

• แนวคิดและการปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร   

ระดับที่ 5 เครือข่ายสีเขียว (Green Network)  

• องค์กรขยายแนวคิดอุตสาหกรรมสีเขียวไปสู่ภายนอก 

• ครอบคลุมตลอดโซ่อุปทาน (Supply Chain) 

• สนับสนุนให้คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว 

ประโยชน์ของ บริการดูแลสวน ที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมสีเขียว 

1. การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 

บริการดูแลสวนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มและรักษาพื้นที่สีเขียวภายในองค์กร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การที่ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆ ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมจะเติบโตแข็งแรงและสามารถดูดซับคาร์บอนได้มากขึ้น ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวยังช่วยลดอุณหภูมิในเขตที่ตั้งขององค์กร บรรเทาผลกระทบจากปรากฏการณ์เกาะความร้อนในเมือง (Urban Heat Island) ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศในการทำความเย็นภายในตัวอาคาร และยังเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ การใช้บริการดูแลสวนที่มีความเป็นมืออาชีพยังช่วยให้พื้นที่สีเขียวมีความหลากหลายทางชีวภาพมากขึ้น เป็นการสร้างระบบนิเวศขนาดย่อมที่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด รวมถึงแมลงผสมเกสรที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศโดยรวมอีกด้วย 

     2. เข้าถึงเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

บริการดูแลสวนในปัจจุบัน จะมีความพร้อมในการประยุกต์นำเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้ามาใช้ในการทำงาน เช่น การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ซึ่งช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศและลดการใช้เสียง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในกลุ่มโรงพยาบาลและสถาณศึกษา การใช้ระบบเซนเซอร์ตรวจวัดความชื้นในดินช่วยประหยัดน้ำและกำหนดการให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวิธีการควบคุมศัตรูพืชแบบชีวภาพแทนสารเคมี จะสามารถช่วยลดการปนเปื้อนในดิน รวมถึงการใช้พืชพันธุ์ท้องถิ่นที่ทนทานต่อสภาพอากาศ จะช่วยลดอัตราการตายของต้นไม้และลดการใช้ทรัพยากรในการดูแลรักษาในระยะยาวได้  นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี IoT และ AI เข้ามาช่วยในการวางแผนและจัดสรรกำลังคน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และช่วยให้การดูแลสวนเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และช่วยในการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น

   3. การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ 

บริษัทดูแลสวนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนจะมีการคำนึงถึงการจัดการของเสียและการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น เศษใบไม้ กิ่งไม้ และเศษหญ้าจากการตัดแต่งสวนสามารถนำไปทำปุ๋ยหมักหรือวัสดุคลุมดิน แทนที่จะส่งไปทิ้งในหลุมฝังกลบ ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะและการปล่อยก๊าซมีเทนจากการย่อยสลายในหลุมฝังกลบ รวมถึงการใช้ปุ๋ยหมักที่ผลิตเองช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนต่างๆ นอกจากนี้ การนำน้ำจากการรดน้ำต้นไม้หรือน้ำฝนมาใช้ซ้ำช่วยประหยัดน้ำได้มากขึ้น รวมถึงการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลในการทำโครงสร้างสวน เช่น ทางเดิน หรือขอบแปลง ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน ทำให้องค์กรสามารถจัดการของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งหมดนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรลดต้นทุนในการดำเนินงานและสร้างคุณค่าให้กับของเศษวัชพืชที่คงเหลือจากการตัดแต่งอีกด้วย 

   4. ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและการสร้างความยืดหยุ่นด้านทรัพยากร 

การเลือกผู้ให้บริการดูแลสวนที่มีเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาทักษะของบุคลากร ไม่เพียงแต่จะช่วยให้องค์กรเข้าถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการพัฒนาบุคลากรและส่งเสริมความยั่งยืนขององค์กรในภาพรวม ช่วยให้พนักงานได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการพัฒนาทักษะที่หลากหลาย อาทิ ทักษะการทำงานร่วมกัน การแก้ไขปัญหา ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเกษตรและเทคนิคใหม่ๆในการดูแลสวน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้พนักงานมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและรู้สึกหวงแหนในสิ่งที่เป็นขององค์กรมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน การว่าจ้างบริษัทดูแลสวนให้เข้ามาทำงานแทน ยังช่วยให้องค์กรเกิดความยืดหยุ่นในการจัดการด้านทรัพยากร สามารถลดคน เพิ่มคน ได้อย่างคล่องตัว ช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ  

   5. เป็นสะพานเชื่อมในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน  

บริการดูแลสวนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนโดยรอบอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในโซนพื้นที่ ที่มีความหนาแน่นสูง การมีพื้นที่สีเขียวที่ได้รับการดูแลอย่างดีเป็นส่วนสำคัญในการช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ลดมลพิษทางเสียง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนในชุมชน การมีพื้นที่สีเขียวนอกเหนือจากสวนสาธารณะในชุมชนยังเป็นพื้นที่ทางสังคมที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน นอกจากนี้ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ส่งเสริมโครงการปลูกต้นไม้ในสวนชุมชน จะช่วยสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ อันนำไปสู่การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในระยะยาว การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีผ่านบริการดูแลสวนนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและชุมชนที่ยั่งยืน การสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้กับผู้ใช้บริการและชุมชน จะช่วยขยายผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง และยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน 

SO บริการดูแลสวน ครบวงจร ที่มีนโยบายสนับสนุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

   ภายใต้ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้นำด้านธุรกิจ Outsourcing ของไทยที่ยกระดับการให้บริการในทุกมิติติ สู่การเข้าไปร่วมคิด ออกแบบ วางแผน และ กำหนดกลยุทธ์องค์กร หรือ Strategic Partner ให้กับลูกค้า ด้วยประสบการณ์ในการบริหารงานด้านภูมิทัศน์กว่า 40 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยจาก ทั่วโลก เข้ามาพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้เรายังมี benefit อื่นๆที่พร้อมให้คุณได้มากว่าอาทิเช่น       

• มีทีมรุกขกรและที่ปรึกษาด้านพฤษาศาสตร์ระดับประเทศ   

• มีการอบรมพัฒนาทักษะและความปลอดภัยในการทำงานก่อนเริ่มงาน    

• มีทีม QC จากส่วนกลางเข้าตรวจคุณภาพทุกเดือน   

• มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสต์ LAB ในการวิเคาระห์และตรวจสอบดินและปุ่ย  

• ผ่านมาตรฐาน ด้านการบริหารจัดการ ISO9001 และ มาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001-2005 และเป็นบริษัท Outsource รายแรกที่ได้ ISO ด้านการลดกระบวนการในการทำงาน หรือ LEAN ISO18404 

สนใจบริการติดต่อ คุณนัท ที่เบอร์ 090-197-8513
หรือ @LINE : SO GREEN
หรอกแบบฟอร์ม ขอใบเสนอราคา คลิก

สรุป
บริการดูแลสวน เป็นทางเลือกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้แนวคิด อุตสาหกรรมสีเขียวและการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านบทบาทหลายด้าน ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ จัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาทักษะบุคลากร และส่งเสริมสุขภาพของชุมชน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และช่วยสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน